การออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงานไม่เพียงช่วยลดค่าไฟ แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วย การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดพลังงานเป็นวิธีที่สำคัญในการสร้างบ้านที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
- การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน
1.1 วัสดุที่ช่วยเก็บความร้อนและความเย็น
- ฉนวนกันความร้อน: การเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนในผนัง หลังคา และพื้นจะช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน ไม่ให้ร้อนในฤดูร้อนและไม่เย็นในฤดูหนาว ซึ่งจะช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน
- กระจกฉนวนสองชั้น (Double Glazing): กระจกสองชั้นช่วยเพิ่มการเก็บความร้อนภายในบ้านในฤดูหนาวและลดการร้อนจากแสงแดดในฤดูร้อน ช่วยให้บ้านเย็นสบายและลดการใช้แอร์
- วัสดุสะท้อนแสง: การใช้สีหรือวัสดุที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงบนหลังคาหรือผนังภายนอกบ้าน เช่น หลังคาสีขาว หรือกระเบื้องที่สะท้อนแสง จะช่วยลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่บ้าน
1.2 การเลือกวัสดุที่มีการระบายอากาศดี
- ไม้: วัสดุไม้ช่วยให้บ้านมีความเย็นสบายในฤดูร้อน โดยการเลือกใช้ไม้ธรรมชาติหรือไม้เคลือบเพื่อให้มีการระบายอากาศที่ดีและไม่เก็บความร้อน
- วัสดุที่ดูดซับความชื้น: การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยดูดซับความชื้น เช่น ผนังปูนที่มีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นจากภายนอก ช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศในบ้าน
- การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยลดพลังงาน
2.1 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน
- เครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน (Energy-efficient Air Conditioners): เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดพลังงาน เช่น ฉลาก Energy Star หรือเบอร์ 5 ซึ่งเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงจะใช้พลังงานน้อยลงและช่วยประหยัดค่าไฟ
- หลอดไฟ LED: หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานยาวนานและใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟทั่วไป จึงช่วยประหยัดค่าไฟได้
- เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันอัตโนมัติ: เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิด หรือมีโหมดประหยัดพลังงาน เช่น ตู้เย็นที่มีฟังก์ชันประหยัดพลังงานจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในระยะยาว
2.2 ระบบพลังงานทดแทน
- แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panels): การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านสามารถช่วยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถใช้ในบ้านและลดค่าไฟได้
- เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์: แทนการใช้เครื่องทำน้ำร้อนด้วยไฟฟ้า, เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์สามารถใช้พลังงานจากแสงแดดเพื่อผลิตน้ำร้อน ช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟได้มาก
- การออกแบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
3.1 การจัดการแสงธรรมชาติ
- การวางตำแหน่งหน้าต่างและช่องแสง: การออกแบบบ้านให้มีหน้าต่างและช่องแสงที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้มากที่สุด จะช่วยให้บ้านสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟตลอดเวลา และสามารถลดการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวันได้
- การใช้ผ้าม่านที่ช่วยกรองแสง: ผ้าม่านหรือม่านที่มีคุณสมบัติกรองแสงจะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดในช่วงกลางวันและยังช่วยป้องกันแสงจากภายนอกในตอนกลางคืน
3.2 การเลือกตำแหน่งเครื่องใช้ไฟฟ้า
- เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน: ควรจัดวางเครื่องใช้ไฟฟ้าในตำแหน่งที่ไม่อยู่ใกล้แหล่งความร้อน เช่น เตาอบ หรือแสงแดดตรงๆ เพื่อให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้พลังงานจากพลังงานทดแทน: หากบ้านใช้พลังงานทดแทนอย่างแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม, ควรวางเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบพลังงานทดแทนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
สรุป
การออกแบบบ้านประหยัดพลังงานไม่ใช่แค่การเลือกวัสดุและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการออกแบบพื้นที่บ้านให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ด้วยการเลือกวัสดุที่เก็บความร้อนและความเย็นได้ดี การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน และการติดตั้งระบบพลังงานทดแทนต่างๆ เช่น โซลาร์เซลล์และเครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์
ขอบคุณเครดิตภาพสวยๆจาก : https://pinterest.com
ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ : https://cozybrown.com/article/
สามารถเข้ามาชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ : https://cozybrown.com/products/